VDO ชุดสอนการเทรดอนุพันธ์ หรือ SET50 Index Futures และหุ้น โดยใช้โปรแกรม eFin Smart Portal


VDO ชุดสอนการเทรดอนุพันธ์ หรือ SET50 Index Futures และหุ้น โดยใช้โปรแกรม eFin Smart Portal ในการวิเคราะห์ สำหรับผู้ต้องการความสมดุลในการ?ลงทุนระหว่าง “หุ้นและฟิวเจอร์ส” กับสัมมนา “กำไรสม่ำเสมอด้วย Futures Smart Portal” วิทยากร คุณวชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Efinanc-thai สถานที่ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วัน-เวลา วันอาทิตย์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013 09.00-12.00 น. จัดโดย บริษัทหลักทรัพย์ โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด สาขาสีลม-01

E-Finance Smart Portal_Futures & Stock – 1



E-Finance Smart Portal_Futures & Stock – 2



E Finance Smart Portal_Futures & Stock – 3



E Finance Smart Portal_Futures & Stock – 4

E Finance Smart Portal_Futures & Stock – 5

สรุปใจความ (ควรเปิด efin smart portal ประกอบไปด้วย)

สิ่งแรกที่ทำคือ ตั้งเป้า ทำกำไรทุกเดือน ต่อมาทำกำไรทุกครึ่งปี ต่อมาตั้งเป้า ทำกำไรทุกเดือน

สามารถเล่น futures ในช่วงที่หุ้นลง และได้ความเสี่ยงต่ำกว่า เพราะทายหุ้นตัวแดงง่ายกว่าตัวเขียว

single stock ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง แต่จะมีบางโบรกเกอร์ที่จะมาช่วยเปิดสัญญาตรงข้ามให้ แล้วเค้าจะไปเฮดกะหุ้นจริงแทน

วิธีการลงทุนใน Futures กับหุ้นให้ความเสี่ยงต่ำ

– ให้ลงทุนโดยใช้ตัวคูณน้อยๆ ประมาณ 1.5-2.5 เท่าแล้วถือเงินสดไว้ที่หุ้น ใช้ทยอยซื้อทยอยขาย เช่น ปกติถ้าเราซื้อ advanc 2000 หุ้นที่ราคา 200 บาท จะต้องใช้เงิน 400,000 บาท แต่หากเราซื้อ futures Advanc ไป 200,000 บาทแต่ มูลค่า 400,000 บาท แล้วเอาอีก 200,000 บาทที่เหลือไปซื้อหุ้นจริงๆ เท่ากับตอนนี้เรามีตัวคูณ 1.5 เท่านั่นเอง เล่นหุ้นให้เหมือนทำธุรกิจ คือต้องมีเงินสดหมุนเวียนเสมอ

“นักเก็งกำไร คือนักซื้อขายโอกาส อะไรก็ตามที่มีวิธีคิดที่ทำให้เรามีโอกาสในการทำกำไรด้วยความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เราคือนักเก็งกำไร แบบมีกลยุทธ”

“นักเก็งกำไรต่างจากนักพนันตรงโอกาส ถ้ามีโอกาสได้มากกว่าเสีย ก็ตัดสินใจซื้อโอกาสนั้น ผลตอบแทนคุ้มความเสี่ยง”

– หากลงทุนใน futures อย่างเดียวให้ลงทุนในสินค้ามากกว่า 1 อย่าง เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพราะคงไม่คาดการณ์ราคาผิดพร้อมกันทุกตัว

– หากสัญญาที่จะลงทุนมีอายุน้อยกว่า 1 เดือนให้เปลี่ยนสัญญาลงทุน (เปลี่ยน series) แต่ถ้ากำไรเยอะๆ แล้วก็ปล่อยหมดอายุไปก็ได้ เพราะกำไรอยู่แล้ว


แนวคิดการลงทุนใน Futures

– ลงทุนได้ทุกภาวะเพื่อให้เกิดกำไรสม่ำเสมอต่อเดือน
– ให้ในการป้องกันความเสี่ยงบางส่วนในการณีที่ไม่มั่นใจสถานการณ์
– ใช้ลงทุนร่วมกัยหุ้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านการจัดสรรเงินลงทุน
-หากเราคาดหวังกำไรน้อยแต่เน้นความสม่ำเสมอ ผลตอบแทนสุดท้ายจะมากที่สุด ใครที่สามารถลงทุนได้สม่ำเสมอที่สุดย่อมได้ผลตอบแทนมากที่สุดในระยะยาว

หลักการ hedging
ถ้าได้กำไร เราจะได้กำไร 2 ทาง แต่ถ้าผิดทางจะได้อย่างเสียอย่าง เช่น ถ้าต่างชาติขายหุ้น ตัวใหญ่ๆ ที่ต่างชาติมักจะขายเช่น ปตท จะลง ก็อาจจะไม่ขายออก หรืออาจจะขายออกเพียงบางส่วน แต่จะไป short set50 แทน เพราะ set จะต้องลงแน่ๆ เพราะหุ้นตัวที่ถือจริงๆ อาจจะไม่ลงจริงๆ ก็ได้ (อาจไม่ใช่ปตท ก็ได้)

ข้อดีข้อเสียของสินค้าแต่ละประเภทใน futures

Set50 Futures
– สภาพคลองสูง
– กราฟเทคนิคแม่นยำกว่าหุ้นรายตัว
– ผลตอบแทนคิดเป็น % ไม่สูงมาก
Single Stock Futues
– สภาพคล่องต่ำ
– ผลตอบแทนสูงเมื่อคิดเป็น %
– ทิศทางไม่สอดคล้องกับตลาด
– มีตัวเลือกในการลงทุนมากกว่า 1 ตัว
– เรารู้พื้นฐานของหุ้นนั้น

การเล่นหุ้นแบบ day ttrade เหมือนนายพราน ต้องเฝ้าเหยื่อยเข้ามาใกล้ๆ แล้วจึงยิง มีคนใช้แนวคิดนี้สามารถทำกำไรได้ปีละ 60%

Gold Futures
– สภาพคล่องสูง
– ผลตอบแทนต่ำ คิดเป็น %
– ทิศทางตรงข้ามหรือตาม set ในบางภาวะ
Oil Futures
– สภาพคล่องต่ำ
– ผลตอบแทนต่ำ คิดเป็น %
– ทิศทางสอดคล้องกับหุ้นกลุ่มพลังงานในบางภาวะ
– สามารถ hedging กับการเติมน้ำมันในชีวิตประจำวันคือ เอาค่าน้ำมันที่น้อยลงมาใช้เล่น oil futures

เครื่องมือในการวิเคราะห์ Index futures
– Set Flow (Alt+7) ร่วมกับกราฟเทคนิคในหน้าเทมเพลต @SetFlow ซ็ายบน ต่างชาติซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้น ขวาบน สถาบันในประเทศซื้อขายสุทธิในตลาดหุ้น ซ้ายล่าง ต่างชาติซื้อขายสุทธิใน Index Futures ขวาล่าง สถาบันอขายสุทธิใน Index Futures เส้นล่างในแต่ละกรอบคือการซื้อขายสะสม ถ้าต่างชาติขายเราจะต้องลดพอร์ตบ้าง แต่ถ้าสถาบันซื้อก็อาจจะไม่ลงแรง ควรให้นน. ต่างชาติมากกว่าสถาบัน

คนที่มีเงินเยอะ จะเล่นให้เสี่ยงต่ำต้องสามารถซื้อขายหุ้นให้ได้กำไร คือจะซื้อตอนราคาต่ำๆ เยอะๆ ข้างบนซื้อน้อยๆ คือแบบปีรมิดขายก็กลับกัน เมื่อขายก็ต้อมีคนซื้อคือรายย่อย จะเป็นปิรมิดกลับกะต่างชาติ ถ้าต่างชาติซื้อ index future จะเล่น long เท่านั้น ไม่เล่น short คนที่เล่นหุ้นที่ต่างชาติมีอิทธิพลต่อหุ้นตัวนั้นมาก ให้ดูที่ indecator NVDR ความสุงของ NVDR คือยอดสะสมที่ถือครองอยู่ vol คือจำนวนหุ้นซื้อขายในแต่ละวัน หุ้นที่ NVDR สูงขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าซื้อสะสมเพิ่มเรื่อยๆ ถ้าเตี้ยลงแสดงว่าขายออกทุกวัน ถ้าเป็นสีเขียวแสดงว่าซื้อเพิ่มจากเมื่อวาน ถ้าเป็นสีแดงแสดงว่าขายออกจากเมื่อวาน BBL เป็นตัวอย่างชัดเจนมาก

– Volumn Analysis แบบ Group Spread Price หรือ F11 จะมีกรอบ Volumn analysis อยู่มุมล่างขวา ให้เปิดเต็มจอ ให้ใส่ s50 series ที่ต้องการ แล้วใส่จำนวนวันย้อนหลังที่ต้องการ (เก็งกำไร เอา 3 วันก็ได้) แล้วเปลี่ยนเป็น group price (ขวาบนของจอ) และ spread = 1 ความหมาย จะเอา ราคาเดียวกันมารวมกันว่ามีคนเห็นพ้องเยอะสุด แท่งสูงสุดคือแท่งที่คนเห็นตรงข้ามเยอะสุด ทำราคาตรงนี้สุงสุดตรงที่คนคิดเหมือนกันน่าจะมีนัยสำคัญอะไรบางอย่าง ให้แท่งสูงสุดเป็นแนวรับแนวต้าน ถ้าราคาปัจจุบันสูงกว่าแท่งสุงสุด แท่งสุงสุดเป็นแนวรับ ถ้าราคาปัจจุบันต่ำกว่าแท่งสุงสุด แท่งนั้นจะเป็นแนวต้าน

– Indicator Advance/Decline Line Breadth ใช้ได้กับ set50 และ sector เท่านั้น (ใช้ series, หุ้น ไม่ได้) (end of day)
general indicator –> Advance/Decline Line Breadth ใช้เพื่อ confirm ว่า set50 จะไม่ sideway เมื่อใส่ indi ตัวนี้แล้วควรใส่ sma ให้มันไป (เลือก source) ปรับคุณสมบัติเป็นค่าเฉลี่ย 5 วัน เส้นที่ใช้คือเส้นค่าเฉลี่ยนี้เอง (ปรับสีของเส้น Advance/Decline Line Breadth ให้เป็นสีดำจะได้ไม่ต้องไปดูมัน) แล้วใส่เส้น va;ue line = 0.5 indicator ตัวนี้มันจะคำนวณหุ้นจาก 50 ตัวใน set50 เอาหุ้นที่บวกหารด้วยหุ้นตัวลบ (ตัวที่ไมีบวกลบก็จะไม่เอามาคำนวณ) (เขียวตั้งหารด้วยแดง) ถ้าออกมาได้มากกว่า 0.5 แสดงว่ามีเขียวมากกว่าแดง ถ้า น้อยกว่า 0.5 แสดงว่าแดงมากกว่าเขียว เส้นค่าเฉลี่ยนี้จะดูความน่าจะเป็นที่แฝงอยู่ในหุ้น 50 ตัวนี้ ส่วนใหญ่ลงหรือขึ้น ถ้าส่วนใหญ่ขึ้นก็ไม่ควร short สวน (คนเส้นฟิวเจอร์ส่วนใหญ่เจ๊งขา short เตือนไว้) ถ้า set เพิ่มขึ้น แต่ Advance/Decline Line Breadth นิ่งๆ หรือลดลง หรือต่ำกว่า 0.5 จะเป็นการบอกว่าตอนนี้ที่ set ขึ้นอาจจะเพราะหุ้นเพียงบางตัว เช่น ปตท ตัวเดียวก็ได้ แสดงว่าจะขึ้นไม่แรง แล้วเดียวจะลงอีก ตอนนี้ควรเล่นขา long แบบสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นถ้าเราเอามาจับกับกลุ่ม sector ถ้าsector ไหนมีค่าสูงๆ ก็แสดงว่าหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสขึ้นสูงกว่าลง (sector จะขึ้นต้นด้วย $ เช่น $ICT คือ sector ICT)

เครื่องมือวิเคราะห์ gold Futures
– Gold Flow (Alt +3)
– Volume Analysis แบบ Group Spread Price

Template Gold Flow กราฟ ซ้ายล่าง เป็นต่างชาติเล่น Metal Futures และขวาล่าง เป็นสถาบันในประเทศ Metal Futures (รวมทั้งเงินและทอง) ดูช่องล่าง การซื้อขายสะสม ให้ดูว่าเส้นอยู่เหนือค่าเฉลี่ยทั้งซ้ายและขวา คือทั้งต่างชาติและสถาบัน ถ้าอยู่เหนือทั้งคุ้ให้เล่นทาง Long ต่างชาติและสถายบันมักจะเล่นทางเดียวกัน ต่างจาก set50 บางทีจะต่างกัน Gold และ gold spot จะต่างกันเพราะมีค่าเงินบาทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

Indicator –> buy sell volume ใช้ได้กับหุ้นทุกตัว จะดูย้อนหลังได้ 90 วัน
sell เยอะกว่า buy เรื่อยๆ จนวันที่ buy เยอะกว่า sell ราคาจะเริ่มขึ้น มันจะแสดงว่าความกล้วน้อยลงเรื่อยๆ จนกล้า ช่วงที่ buy < sell น้อยลง เป็นการบอกถึงความกลัวหรือคิดว่าแพงจึงขายมากกว่าซื้อ และถ้าไม่มี new low จะสะท้อนว่า ความกลัวเริ่มน้อยลง จนกระทั่งวันที่ buy > sell เมื่อไหร่จะเป็นการยืนยันว่าราคาจะขึ้น

เทมเพลต @Scan จะทำงานช่วงปิดตลาดเที่ยงกับเย็นเพราะข้อมูล end of day
ถ้า set ลง ให้ใช้ divindend stock rebound คือช่วงที่ราคาลงแล้วเริ่มขึ้นมานิดนึง (หุ้นนั้นต้องปันผลมากกว่า 5% ด้วย)
set50 gw up trend เป็นหุ้นที่ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น ควรสแกนทุกวันมาเทียบกัน ถ้าวันนี้มีตัวไหนของเมื่อวานหายไป แสดงว่าจะต้องขายละ
Fundamental SAA consensus ดูบทวิเคราะห์พื้นฐาน
เมษายน 2556 จะมีสแกนหุ้นเบรคออกมาให้ใช้

การลงทุนหุ้นระยะยาว

วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ (efinance มีให้) และเชิงคุณภาพ
วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ใน efin ให้ดูคลิกขวา ดู fundamental ดุงบการเงินอย่างย่อ short financial , anual รายงานประจำปี ปัจจัยเสี่ยง ลักษณะการประกอบธุรกิจ การประกอบธุรกิจแต่ละสายผลิตภัณฑ์ , single stock ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดูความแน่นอนของรายได้ในธุรกิจแต่ละประเภท ว่าธุรกิจไหน บริษัทไหนมีความแน่นอนของรายได้มากกว่ากัน ก็จะเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะหุ้นที่มีสำประทานล่วงหน้าเยอะๆ คุมต้นทุนได้ดี จะเสี่ยงต่ำ รายได้แน่นอน ต้องมาดูต้นทุน คนที่ควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าแน่นอนกว่าก็จะเสี่ยงต่ำกว่า วิเคราะห์เงินบาทสำหรับหุ้นส่งออกนำเข้า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส่วนใหญ่รายรับเป็นดอลล่า ต้องดูเงินบาทด้วย ประเทศที่มีสินทรัพย์โตขึ้น หรือมากขึ้น เงินจะแข็งขึ้น ถ้าแนวโน้มสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น ค่าเงินก็น่าจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น นำเข้าก็จะได้ประโยชน์ เช่น แสนสิริมียอด back log เยอะสุด (pre sell) PS บอกว่ายอดโอนเยอะสุด แต่ LH ก็ว่ากำไรเยอะสุด แล้วจะซื้อตัวไหน ให้มาดูที่งบการเงิน ที่เทมเพลต analysis stock จะสามารถดู net profit margin ได้อันไหนเยอะสุด น่าสนใจสุด เอามาเปรียบเทียบกัน ดูโครงสร้างรายได้ด้วย LH มีการไปซื้ออพาร์ตเม้นต์ให้เช่าที่อเมริกา (ใช้ความได้เปรียบเรื่องค่าเงินบาท และวิกฤตของอเมริกาเป็นประโยชน์)

โครงสร้างรายได้มีความสำคัญมากว่าเค้าทำอะไร ได้เปรียบ เสียเปรียบอย่างไร

1. เลือกหุ้นที่รายได้แน่นอน แล้วแข่งกันคุมค่าใช้จ่าย
2. เลือกหุ้นที่ล้มยาก ขาดทุนยาก แต่ถ้าผันผวนมาก ควรเล่นผสมยาวสั้นครึ่งพอร์ต คือครึ่งนึงถือยาว ครึ่งนึงอาจจะขายบ้างตามเทคนิค คอยจังหวะซื้อกลับ

DW เช่น ถ้าคิดว่าบ้านปูจะรีบาวน์ ก็อาจจะแบ่งส่วนหนึ่งมาเล่น DW (แบ่งเงินจากปันผลที่คาดว่าจะได้ ให้ซื้อหุ้นนั้น แล้วเอาเงินที่คาดว่าจะได้เป็นปันผลมาเล่น DW เป็นการลดความเสี่ยงของเราเองด้วย)
กด F3 เหมาะกับการเล่น warrant หรือ DW ดูวันหมดอายุก่อนเอาที่ไกลๆ แล้วดูโซนด้านล่าง ช่องล่างสุดมี discount in/out money ถ้าเป็น D .50 คือมี discount คือถ้า warrant ตัวนี้แล้วแปลงเป็นหุ้นธรรมดาแล้วขายหุ้นนั้นทันที จะได้กำไร 50 สต ต่อหุ้น ส่วน in/out money 4.04 คือต้องซื้อ warrant ที่ราคาต่ำกว่า 4.04 จึงจะได้กำไร

รูปกราฟทองปัจจุบันวันที่ 18 เมษายน 2556

จะพบว่าราคาทองลงมาแต่สถาบันและต่างชาติ Long Gold Futures สะสมเพิ่มขึ้น ต้องดูกันต่อไปว่าทองจะจบการลงหรือไม่อย่างไร

credit : investfordummy.com
VDO ชุดสอนการเทรดอนุพันธ์ หรือ SET50 Index Futures และหุ้น โดยใช้โปรแกรม eFin Smart Portal VDO ชุดสอนการเทรดอนุพันธ์ หรือ SET50 Index Futures และหุ้น โดยใช้โปรแกรม eFin Smart Portal Reviewed by boss on 16:07 Rating: 5
ขับเคลื่อนโดย Blogger.