Fin-Tech ชื่อนี้จะกระทบหุ้นแบงค์แน่นอน!
ใครยังไม่รู้จัก "FinTech" ชื่อนี้ต้องรีบทำความรู้จักแล้วนะครับ เพราะ
- อีกไม่นาน ธุรกรรมด้านการเงิน โอน จ่าย รับ อาจจะไม่ได้ทำผ่านธนาคารอีก
- การเงิน โอน จ่าย รับ จะทำมือถือ ทำธุรกรรมได้เร็ว ปลอดภัย และอาจไม่เสียค่าธรรมเนียมเลยด้วยซ้ำ!
- หรือไม่ก็ธนาคารไทย จะเสียท่าให้กับบริษัทต่างชาติ อย่าง Line Pay, Apple Pay, PayPal, Ali Pay, Google Pay
- และคิดดูว่า Facebook ที่มีฐานลูกค้าคนไทยเกือบทั้งประเทศ กำลังจะทำ Facebook Messenger Pay อีก!
- ถ้าธนาคารไทยไม่รีบทำอะไรซักอย่าง ไม่สามัคคีกัน ต่างคนต่างทำ payment system คนละระบบไปคนละทิศคนละทาง ใช้งานร่วมกันไม่ได้ และยังมาเก็บค่าธรรมเนียม 15-35 บาทอีก ระวังจะเสียเอกราชทางการเงินให้ต่างชาติ แบบชนิดกู่ไม่กลับ
นับถอยหลังได้เลย!
ธปท.ตั้งทีมรับกระแส"ฟินเทค" จุดเปลี่ยนธุรกิจการเงินทั่วโลก
"ธปท.-ก. ล.ต.-คปภ." ตั้งรับกระแส"Fin Tech" แจ้งเกิดผู้เล่นหน้าใหม่ธุรกิจการเงิน ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ชี้เปลี่ยนแลนด์สเคปการเงินทั่วโลก ฝ่ายกำกับตลาดทุนเล็งปรับไลเซนส์ใบเดียวมีหลายโมเดลธุรกิจ เปิดทางระดมทุน "คราวด์ฟันดิ้ง"
ธปท.ตั้งทีมรับมือ Fin Tach
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เรื่องเทคโนโลยีทางการเงิน Financial Technology หรือ Fin Tech เป็นโจทย์ที่สำคัญมาก ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ระบบการเงินของโลก ไม่ใช่เฉพาะในไทย โดยจะเห็นผู้เล่นรายใหม่ ๆ ที่อาศัย Fin Tech จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและเข้ามาในธุรกรรมที่ถือว่าเป็นธุรกรรมหลักของ สถาบันการเงิน
"ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่สถาบันการเงิน ไทยตื่นตัวและเตรียมพร้อม เพราะเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามามีทั้งการลองผิด ลองถูก แต่หากลองแล้วถูกขึ้นมาก็จะสามารถ pick up ได้เร็วมาก ทำให้มีปริมาณธุรกรรมมากขึ้น เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ทั้งโลกต้องให้ความสำคัญ ซึ่ง ธปท.ก็ให้ความสำคัญกับผู้เล่นที่เป็น Fin Tech รายใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาทำ ทั้งที่เป็นแบงก์และน็อนแบงก์ เป็นความท้าทายที่ต้องเตรียมตัวและตามให้ทัน และ ธปท.ก็ได้ตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องนี้" นายวิรไทกล่าว
อีกด้านหนึ่ง กฎหมายระบบชำระเงินฉบับใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ สนช.ซึ่งจะให้อำนาจ ธปท.เข้าไปกำกับดูแลธุรกิจการชำระเงิน ทั้งที่ผู้เล่นที่เป็นธนาคารพาณิชย์และไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ รวมถึงที่เป็น Fin Tech ซึ่งเดิมกฎหมายจะเป็นเบี้ยหัวแตก บางเรื่องก็ต้องไปขอกระทรวงไอซีที บางเรื่องต้องใช้ ปว. 58 (ประกาศของคณะปฏิวัติ) ดูแล เป็นต้น แต่ต่อไปจะให้อำนาจ ธปท.กำกับดูแลทั้งหมด
นายวิรไทกล่าวว่า Fin Tech มีหลายประเภท ถ้าเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การกู้ยืมเงินก็จะเข้ามาที่ ธปท. ส่วนที่เกี่ยวกับระดมทุน เช่น equity crowdfunding, ที่ปรึกษาทางการเงินก็จะมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดูแล หรือถ้าเกี่ยวกับธุรกิจประกัน ซึ่งในต่างประเทศมี Fin Tech ด้านนี้ ส่วนนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.)
ก.ล.ต.จ่อปรับเกณฑ์ไลเซนส์
ขณะที่ นางปะราลี สุคนธมาน ผู้ช่วยเลขาธิการ สายธุรกิจตัวกลางและตลาด ก.ล.ต.เปิดเผยว่า ในต่างประเทศบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และธุรกิจวาณิชธนกิจ (invesment banking) ต่างประสบกับการแข่งขันจากผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาในรูปแบบ Fin Tech มากขึ้น รุนแรงขึ้น และ ก.ล.ต.ก็ได้ข้อมูลจาก บล.ที่มีบริษัทแม่ในต่างประเทศแจ้งว่า ธุรกิจหลักทรัพย์บางแห่งจำเป็นต้องปรับโครงสร้างธุรกิจเดิม หรือเปลี่ยนธุรกิจด้วยการร่วมทุนหรือถือหุ้นในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับ Fin Tech มากขึ้น
ดังนั้นในแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2559-2561) ของ ก.ล.ต.จึงได้บรรจุเรื่อง Fin Tech เข้าไปในแผนด้วย โดยจะเป็นการปรับแลนด์สเคปของการให้ใบอนุญาตธุรกิจในตลาดทุนที่หลากหลายขึ้น เบื้องต้นจะปรับปรุงใน 4 เรื่อง ได้แก่ โครงสร้างของการให้ใบอนุญาตประกอบกิจการ (ไลเซนส์) เกณฑ์ขั้นต่ำของทุนจดทะเบียนของธุรกิจ คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต และเกณฑ์การกำกับดูแล และปี 2559 น่าจะได้เห็นความคืบหน้าในบางเรื่อง
"เมื่อ มีเรื่องใหม่ ๆ เข้ามา เราจะกำกับแบบให้ไลเซนส์แบบเดิมคงไม่ได้แล้ว ตอนนี้ในธุรกิจตลาดทุนไทยอาจยังไม่ชัด แต่ในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทยเห็นสัญญาณชัดว่าเริ่มได้รับผลกระทบจาก Fin Tech จนทำให้หลายแบงก์แทบจะหยุดการขยายสาขา หรือการที่ 3 ค่ายมือถือจับมือกันทำเรื่องโอนเงิน-ชำระเงินก็กระทบกับธุรกิจแบงก์เช่นกัน" นางปะราลีกล่าว
หนุนระดมทุน Crowdfunding
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังมีแนวทางจะปรับปรุงกฎเกณฑ์การกำกับดูแลที่เป็นการออกเสนอขายหุ้น แก่ประชาชนในรูปแบบ Equity Crowdfunding เป็นการระดมทุนจากสาธารณะ เพื่อสนับสนุนช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี หรือธุรกิจกลุ่มเกิดใหม่ที่เรียกว่า "startup" โดยให้หุ้นของบริษัทเป็นสิ่งตอบแทน
นางปะราลีกล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ออกเกณฑ์กำกับดูแลอิควิตี้ คราวด์ฟันดิ้งตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ยังต้องปรับปรุงให้มีประสิทธิผลมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และเดือน ก.พ.น่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม เช่น เรื่องผู้รับฝากเงินหรือผู้เก็บรักษาเงินค่าจองซื้อหุ้น จะปรับปรุงเกณฑ์ให้โบรกฯและทรัสตีเข้ามาเป็นผู้รับฝากเงินได้
"นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในอิควิตี้ คราวด์ฟันดิ้งต้องเข้าใจว่า บริษัทที่เข้ามาระดมทุนมีความเสี่ยงต่อความอยู่รอดของธุรกิจสูง ในต่างประเทศพบว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จมีเพียง 20-30% นักลงทุน มีโอกาสจะสูญเสียเงินต้น ไม่ได้ปันผล แต่อีกด้านหากธุรกิจประสบความสำเร็จก็จะมีผลตอบแทนที่ดีมาก ดังนั้น ก.ล.ต.จึงดูแลความเสี่ยงเบื้องต้นด้วยการกำหนดให้นักลงทุนรายย่อยลงทุนได้ ไม่เกินรายละ 50,000 บาทต่อบริษัท และทั้งปีไม่เกิน 500,000 บาท และก่อนลงทุนจะต้องผ่านการทดสอบความรู้ความเข้าใจการลงทุนด้วย ล่าสุดมีธุรกิจที่แสดงความสนใจเข้ามาทำหน้าที่ตัวกลางระดมทุนคราวด์ฟันดิ้ง ที่รอขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. 5 ราย" นางปะราลีกล่าว
ขณะที่นาย สุรินทร์ ตนะศุภผล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกลยุทธ์องค์กร คปภ.กล่าวว่า ฟินเทคถือเป็นเรื่องใหม่ ซึ่ง คปภ.อยู่ระหว่างศึกษาโมเดลจากประเทศในภูมิภาคนี้ รวมถึงดูกฎหมายในประเทศ ว่าจะพัฒนารับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 เพื่อรองรับทิศทางการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทยใน 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2559-2563)
เคแบงก์-เอสซีบีจัดทัพรับฟินเทค
นาย ธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธาน กสิกร บิสซิเนส เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG กล่าวว่า ธนาคารตั้งกลุ่ม KBTG ขึ้นมาเพื่อดูแลหน่วยธุรกิจด้านทคโนโลยีโดยเฉพาะเพื่อความคล่องตัวในการทำ งาน ครอบคลุม 5 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ พัฒนาซอฟต์แวร์ บริการดูแลรักษา ห้องวิจัยและพัฒนา และหน่วยงานกลางด้านแผนธุรกิจ
โดย Fin Tech ก็อยู่ในงานด้านวิจัยพัฒนา ซึ่งแนวทางการพัฒนาก็มีทั้งการร่วมทุนกับผู้พัฒนาธุรกิจนี้อยู่แล้ว หรืออาจเป็นการซื้อบริษัทที่น่าสนใจ รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ โดยขณะนี้มี Fin Tech ที่เคแบงก์ทำงานอยู่ด้วย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจของคนไทย
"ในอนาคตธนาคารมีหลายโซลูชั่นในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการเงิน มีงบประมาณเตรียมไว้อยู่แล้ว และอาจขยับไปสู่เรื่องอื่น ๆ นอกจากเรื่องการชำระเงิน การกู้ยืมเงิน การระดมทุน การบริหารความมั่งคั่ง และประกันก็ได้" นายธีรนันท์กล่าว
ขณะที่นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตจาก ธปท. จัดตั้งบริษัทใหม่ โดยธนาคารจะกันเงิน 1-1.5% ของกำไรสุทธิในแต่ละปี เพื่อดำเนินการด้านการวิจัยและพัฒนาธุรกิจด้าน Fin Tech รวมถึงได้เตรียมเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งกองทุนร่วมทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) เพื่อลงทุนในกลุ่มสตาร์ตอัพทางด้าน Financial Technology และเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกใหม่ของวงการธนาคาร ซึ่งบริษัทใหม่ดังกล่าวจะมีนายธนา เธียรอัจฉริยะ เป็นผู้บริหาร
ที่มา : stock2morrow
Fin-Tech ชื่อนี้จะกระทบหุ้นแบงค์แน่นอน!
Reviewed by boss
on
19:29
Rating:
