เปิดกรุ "หุ้นปันผลเยี่ยม" ทางเลือกหลบภัยยามหุ้นไทยผันผวนสูง

ในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวนรุนแรง จับทางลำบากยากยิ่ง การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive stock ถือเป็นช่องทางลงทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี ซึ่ง "หุ้นปันผล" จัดว่าอยู่ในกลุ่มดังกล่าว เพราะอย่างน้อยก็การันตีได้ว่า การลงทุนของคุณมีผลตอบแทนแน่นอน "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงรวบรวมรายชื่อหุ้นที่มีแนวโน้มปันผลโดดเด่นมาให้นักลงทุนพิจารณาลงทุน

3 หลักเกณฑ์คัดเลือกหุ้นปันผล 

จากการรวบรวมข้อมูลและสอบถามจากนักวิเคราะห์หลายราย พบองค์ประกอบร่วมของหุ้นปันผลที่น่าสนใจ ดังนี้
1.ต้องมีอัตราตอบแทนเงินปันผลมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3.40%
2.ต้องมี P/E ในระดับต่ำ ซึ่งหากจะให้เหมาะสมต้องไม่เกิน 13-15 เท่า
3.เป็นหุ้นที่มีโอกาสปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาด หรือ หุ้นที่มีค่า Beta ต่ำกว่า 1

ปันผลดีต้องมีอัพไซด์ราคาด้วย

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเชีย พลัส ระบุว่า หุ้นปันผลที่ดีนอกจากองค์ประกอบข้างต้นแล้ว ต้องมีอัพไซด์ของราคาหุ้นต่อราคาเหมาะสมอย่างน้อย 20% เพราะแม้ว่ายีลด์ที่ได้อาจจะไม่สูงมากนัก แต่ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากราคาหุ้นในการลงทุนระยะยาว
"การเลือกหุ้นปันผลต้องดูพื้นฐานธุรกิจด้วย โดยต้องมีฐานการเงินมั่นคง D/E ต่ำ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูง สามารถจ่ายเงินปันผลได้สม่าเสมอ ประมาณ 3.5-4%ต่อปี มากกว่าอัตราเงินฝาก ที่สำคัญต้องมีอัพไซด์ให้เล่นด้วย"

หุ้นโรงไฟฟ้าตอบโจทย์ความมั่นคงกำไร

กวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย แนะนำว่า ต้องเลือกหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมออย่างน้อย 2-3 ปีหลัง ที่สำคัญบริษัทต้องมีกำไรอย่างต่อเนื่องไม่ผันผวนเกินไป และต้องมี Dividend yield ไม่น้อยกว่า 5%

หุ้นโรงไฟฟ้าจะน่าสนใจมากสำหรับการเลือกหุ้นปันผล เพราะชัวร์ในแง่ผลประกอบการ เช่น บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH), บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) แต่ผมจะไม่นิยมนำองค์ประกอบด้าน Capital gain มารวมด้วย เพราะเมื่อเราเน้นที่หุ้นปันผลก็จะมองยีลด์มากกว่า ซึ่งเรื่องของราคาหุ้นอาจจะรบกวนวินัยการตัดสินใจลงทุนได้ เช่น หุ้นกลุ่มอสังหาฯ มีหลายบริษัทให้ยีลด์ค่อนข้างดี แต่ราคาหุ้นผันผวนสูง จึงไม่ได้แนะนำ

อสังหาฯ-แบงก์ ปันผลงาม

ด้าน อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ คาดว่า บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) จะจ่ายปันผลงวดปี 58 ที่ 0.60 บาท/หุ้น,บมจ.แสนสิริ (SIRI) ที่ 0.11 บาท/หุ้น และ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ที่ 0.30 บาท/หุ้น

โดยทั้ง 3 รายมี Dividend yield มากกว่า 4% ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสมในการคัดเลือกหุ้นปันผล ขณะที่มีการจ่ายอย่างสม่ำเสมอ และมีการเติบโตของกำไรในทุกๆ ปี ที่สำคัญราคาหุ้นค่อนข้าง Underperform ในช่วงที่ผ่านมา จึงมีความน่าสนใจในแง่ของ Capital gain ด้วย 

เขากล่าวต่อไปว่า บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นอีกรายที่น่าสนใจ เพราะมีการจ่ายเงินปันผลสูงสม่ำเสมอ มียีลด์มากกว่า 5% โดยคาดว่ารอบนี้น่าจะจ่ายที่ 0.85 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend yield สูงถึง 5.4%

สอดคล้องกับโบรกเกอร์ อีก 7 แห่งที่ยังแนะนำซื้อ-ถือ KTB เพื่อรับเงินปันผล ให้ราคาเป้าหมาย 17.00 -19.60 บาท

หุ้นสื่อสารตัวหลักยังน่าสนใจ

นักวิเคราะห์ บล.เออีซี ให้ความเห็นว่า หุ้นหน้าเก่าปันผลดีในกลุ่มสื่อสารยังมีความน่าสนใจสูง ประกอบไปด้วย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (ADVANC), บมจ.อินทัช โฮลดิ้ง (INTUCH) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)

"หากลองดูให้ดีทั้ง 3 รายยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ผลประกอบการยังมีการเติบโต ประเด็น 4G ก็สะท้อนราคาหุ้นไปเยอะแล้ว ซึ่งถ้ามองในแง่ของหุ้นปันผล 3 รายนี้จะยังเป็นตัวเลือกแรกๆ ของนักลงทุนไม่ว่าจะรายย่อยหรือสถาบัน ที่สำคัญราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงจะทำให้ยีลด์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย"

*** เซียนหุ้นเตือนระวัง "กับดักปันผล" ***

"โจ ลูกอีสาน" หรือ อนุรักษ์ บุญแสวง นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) เตือนว่า การลงทุนหุ้นปันผล เป็นทางเลือกที่ดีมีความเสี่ยงต่ำ แต่หลายครั้งก็เป็นกับดักหลอกแมงเม่าได้

"อย่าหลับหูหลับตาเลือก...ต้องดูพื้นฐานประกอบด้วย เพราะยีลด์ที่ปรากฏมันคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แต่การลงทุนเราต้องมองที่อนาคต ผมเห็นมานักต่อนักแล้ว ได้เงินปันผลแต่ขาดทุนราคาหุ้น เพราะไปดูแต่ยีลด์อย่างเดียว ไม่สนว่ากำไรล่าสุดจะดีไหม มีแผนลงทุนอะไรหรือเปล่า แนวโน้มอนาคตจะเป็นอย่างไร

หลักการสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือ ตีให้แตกว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตต่อเนื่องได้อีกหลายปี กำไรที่จ่ายควรมาจากกำไรปกติไม่ใช่กำไรพิเศษ และที่ต้องตั้งเป้าไว้เลยคือบริษัทนั้นต้องมีการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นทุกปี"

ด้านเทรดเดอร์ชื่อดังรายหนึ่ง เสริมว่า การเลือกหุ้นที่ยึดเอาแต่ยีลด์ปันผลสูงๆ เป็นหลัก คือการดูแต่ ผล โดยไม่สนใจ เหตุ ต้องตีเหตุให้แตกก่อนถึงเลือกลงทุน ผลที่ได้รับจึงจะเหมาะสม

ขนาดผมเน้นการลงทุนระยะสั้น แต่หุ้นปันผลผมก็ชอบ เพราะมันสามารถเล่นสั้นได้เหมือน เพียงแต่ต้องมองให้ออก หาจุดเหมาะสมให้ลงตัว เพราะหากเลือกให้ดีคุณจะได้กำไรจากราคาหุ้นและปันผล...ที่สำคัญอย่าสับสน ระหว่างคำว่า Dividend Stock กับ Stock Dividend เป็นอันขาด เพราะมันไม่ใช่อันเดียวกัน

ก่อนจะซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผล ต้องมั่นใจว่า บริษัทจะมีกำไรแน่ๆในไตรมาสสุดท้าย เพราะบางครั้งการที่มีกำไร 3 ไตรมาสติด ก็ไม่ได้การันตีเสมอไป ขณะที่ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบด้วยว่าบริษัทนั้นๆ มีแผนจะลงทุนหรือไม่ในระยะสั้น เพราะอาจจะไม่จ่ายปันผลก็ได้"

ที่มา : stock2morrow